รู้ไว้ก่อนใช้ ยา viagra pills
28 ธันวาคม 2563, 02:34 น.Erectile Dysfunction (ED) คืออะไร เกิดขึ้นกับใครได้บ้าง
ผู้ชายมักจะมีปัญหาในเรื่องของการแข็งตัวของอวัยวะเพศ ซึ่งบางคนพบว่าการแข็งตัวของอวัยวะเพศเป็นเรื่องยากและเกิดขึ้นเป็นประจำ จนทำให้ไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ ซึ่งอาการเหล่านี้เรียกว่า อาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือ ED ซึ่งได้กลายเป็นปัญหาใหญ่สำหรับผู้ชายหลายคน แต่อาการ ED นั้น เป็นอาการที่สามารถแก้ไขและรักษาได้ โดยมีวิธีการรักษาที่หลากหลาย หนึ่งในวิธีที่นิยมก็คือ การใช้ยา viagra pills เนื่องจากมีการค้นพบว่ายาซิลเดนาฟิล หรือไวอากร้านั้น มีผลต่อการแข็งตัวของอวัยวะเพศได้
ส่วนสาเหตุของการเกิดอาการ ED นั้น มีหลายสาเหตุด้วยกัน ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจากสุขภาพร่างกาย แต่อาจเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสภาวะทางจิตใจด้วย ซึ่งเหตุผลด้านสุขภาพเป็นเหตุผลที่พบได้บ่อย คือ มักจะมาจากสภาวะทางการแพทย์ที่ส่งผลต่อหลอดเลือดหรือเส้นประสาทที่ส่งไปยังอวัยวะเพศ หรือยารักษาโรคอื่น ๆ ที่สั่งโดยแพทย์ รวมถึงพฤติกรรมส่วนตัว เช่น ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่เหล่านี้ ก็สามารถทำให้เกิดอาการ ED ได้ และอาการ ED สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้ชายทุกวัย แต่จะพบได้มากในวัย 40 ปีขึ้นไป และพบได้บ่อยในวัยสูงอายุ
ยา viagra pills ใช้งานอย่างไร
การใช้ยาไวอากร้าให้ถูกต้อง คือ ควรกินยาประมาณ 30 นาทีก่อนพยายามมีเพศสัมพันธ์ และควรใช้ยาเพียงหนึ่งเม็ดในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และสิ่งที่สำคัญคือ การที่ยาไวอากร้าจะได้ผลดีนั้น จะต้องมีการกระตุ้นทางเพศเกิดขึ้นด้วย อวัยวะเพศถึงจะแข็งตัวได้ ก่อนกินยาควรหลีกเลี่ยงอาหารมื้อหนักและอาหารที่มีไขมันสูง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แม้ว่าแอลกอฮอล์จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายก่อนมีเพศสัมพันธ์ได้ แต่ก็อาจส่งผลต่อการทำงานของไวอากร้าได้ด้วย รวมถึงเกรปฟรุตหรือส้มโอ เพราะจะไปส่งผลถึงประสิทธิภาพของไวอากร้า
ยา viagra pills ทำงานอย่างไร
ไวอากร้าทำงานอย่างไร? ยาไวอากร้าใช้ได้ผลกับผู้ชายประมาณ 3 ใน 4 คนที่ลองใช้ แต่อาจต้องลองใช้ประมาณ 2-3 ครั้งก่อน เพื่อดูผลลัพธ์ที่ได้ ว่ายาสามารถช่วยให้อวัยวะเพศมีการแข็งตัว หรือคงการแข็งตัวได้นานพอที่จะมีเพศสัมพันธ์ได้ง่ายขึ้นหรือไม่ เพราะสารออกฤทธิ์ในไวอากร้าคือซิลเดนาฟิล ซึ่งจะไปทำงานโดยการเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศเพื่อให้แข็งตัวได้ง่ายขึ้น แต่มันไม่ได้ทำให้เกิดการแข็งตัวโดยตรง ดังนั้น ยังคงต้องกระตุ้นทางเพศเพื่อให้ไวอากร้าทำงานได้เห็นผลยิ่งขึ้น
ยา viagra pills อยู่ได้นานแค่ไหน
ไวอากร้ามักใช้เวลา 4-6 ชั่วโมง ที่ออกฤทธิ์ในร่างกาย แต่จะหมดฤทธิ์เร็วหรืออยู่ได้นานก็ขึ้นอยู่กับบุคคลด้วย โดยเฉลี่ยการแข็งตัวของไวอากร้านั้น จะมีระยะเวลา ดังนี้
- แข็งตัวนาน 33 นาที หลังจากกินไวอากร้าเข้าไป 1 ชั่วโมง
- แข็งตัวนาน 23 นาที หลังจากกินไวอากร้าเข้าไป 8 ชั่วโมง
- แข็งตัวนาน 16 นาที หลังจากกินไวอากร้าเข้าไป 12 ชั่วโมง
ไวอากร้าจะอยู่ในร่างกายของเราได้นานแค่ไหน? ไวอากร้าจะอยู่ได้สูงสุดในร่างกายของเราประมาณ 1 ชั่วโมงหลังจากที่กิน หลังจากผ่านไป 4 ชั่วโมง จะยังมีไวอากร้าประมาณ 50% ของระดับสูงสุดที่ยังคงอยู่ในร่างกาย หลังจาก 8 ชั่วโมงจะมีไวอากร้าประมาณ 10% ของระดับสูงสุดที่เหลืออยู่ในร่างกาย และเมื่อเวลาผ่านไป 24 ชั่วโมง ยาไวอากร้าทั้งหมดจะหมดฤทธิ์ไปจากร่างกายของเรา ถึงตอนนั้นก็จะสามารถกินไวอากร้าอีกครั้งได้
ควรกินไวอากร้าบ่อยแค่ไหน
เราควรกินไวอากร้าวันละครั้งเท่านั้น ไม่ควรกินเพิ่มหากยังไม่ครบ 24 ชั่วโมง เพราะจะไม่ปลอดภัย แม้ว่าจะไม่รู้สึกถึงผลข้างเคียงใด ๆ ก็ตาม แต่ร่างกายจะยังมีตัวยาหลงเหลืออยู่ และแม้ว่าจะกินไวอากร้าในปริมาณที่น้อยกว่าปริมาณสูงสุดต่อวันที่ควรกิน (100 มก.) ก็ตาม ก็ยังไม่ควรกินไวอากร้าเพิ่มในวันเดียวกัน
และในปัจจุบันก็ยังไม่มีหลักฐานว่าการกินไวอากร้าในระยะยาวจะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพเรื้อรังหรือไม่ ดังนั้น ไวอากร้าจึงสามารถใช้เป็นยารักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศในระยะยาวได้ แต่หากเป็นไปได้ลองใช้ตัวเลือกการรักษาอื่น ๆ ที่ช่วยแก้ไขอาการแข็งตัวของอวัยวะเพศได้ในระยะยาวโดยไม่ต้องพึ่งยา viagra pills ด้วยวิธีการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต เช่น ดูแลเรื่องอาหารการกิน กินอาหารที่มีประโยชน์ งดดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ ออกกำลังกายอุ้งเชิงกราน เป็นต้น
ไวอากร้ามีทางเลือกอะไรบ้าง
หากคุณมีปัญหาในเรื่องการแข็งตัวของอวัยวะเพศ การรักษาด้วยยาจะเป็นยาในกลุ่ม PDE5-inhibitors ยาเหล่านี้ไม่ทำให้เกิดการแข็งตัว แต่การทำงานของมันคือ ช่วยให้อวัยวะเพศสามารถแข็งตัวได้ง่ายขึ้นตามธรรมชาติเมื่อมีอารมณ์ทางเพศ นอกไปจากยาไวอากร้า หรือตัวยาซิลเดนาฟิล ที่จะช่วยรักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้แล้วนั้น ยังมีตัวยาอื่น ๆ ที่สามารถเป็นทางเลือกที่ดีได้อีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาบางตัวออกฤทธิ์ไวและนานกว่าไวอากร้า แต่ให้ประสิทธิภาพการแข็งตัวของอวัยวะเพศที่เหมือนกัน ทางเลือกอื่น ๆ ได้แก่
1. Stendra ที่มีตัวยาคือ อวานาฟิล เป็นยาเม็ดที่รักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศที่ออกฤทธิ์เร็วที่สุด สามารถใช้เวลาเพียง 15-30 นาที เพื่อให้ยาเริ่มออกฤทธิ์ เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ไม่ต้องการวางแผนกิจกรรมทางเพศล่วงหน้าเป็นเวลานาน โดยตัวยาจะออกฤทธิ์นาน 4-6 ชั่วโมง
2. Cialis ที่มีตัวยาคือ ทาดาลาฟิล ยาตัวนี้จะใช้เวลาในการทำงานเท่ากับไวอากร้า แต่เซียลิสจะออกฤทธิ์อยู่ได้นานถึง 36 ชั่วโมง ซึ่งมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า Holiday pills เป็นตัวยาที่ออกฤทธิ์นานกว่าตัวอื่น ๆ และมีราคาแพงกว่าเช่นกัน หมายความว่า เราจะสามารถใช้มันได้เร็วกว่าที่ต้องการ และสามารถมีเซ็กส์ที่เป็นธรรมชาติได้มากขึ้นในช่วงเวลา 36 ชั่วโมง ควรกินยาเซียลิส 1 ชั่วโมงก่อนมีเพศสัมพันธ์ ตัวยาจะออกฤทธิ์นาน 24-36 ชั่วโมง
3. Cialis Daily เป็นยาเม็ดที่มีตัวยาเดียวกันกับ Cialis แต่มีปริมาณตัวยา ทาดาลาฟิล ต่ำกว่า Cialis ปกติ เป็นยาที่สามารถกินได้ทุกวัน วันละครั้ง สำหรับยาตัวนี้จะใช้เวลาประมาณ 3 วันในการปรับร่างกายให้อยู่ในระดับที่คงที่ และเมื่อร่างกายอยู่ในระดับที่เหมาะสมแล้ว อวัยวะเพศจะเกิดการแข็งตัวได้ง่ายขึ้น ดังนั้น จึงไม่ต้องวางแผนเรื่องเซ็กส์ล่วงหน้าเหมือนการกินยาไวอากร้าตัวอื่น ๆ ซึ่งตัวเลือกนี้จะดีที่สุดหากคุณมีเซ็กส์มากกว่า 3 วันต่อสัปดาห์ โดยตัวยาจะออกฤทธิ์นาน 24 ชั่วโมง
4. Levitra ที่มีตัวยาคือ วาดานาฟิล ออกฤทธิ์คล้ายกับไวอากร้าและซิลเดนาฟิลมาก แต่ในบางคนก็พบว่ายาเลวิตร้าเริ่มทำงานเร็วขึ้นเล็กน้อยประมาณ 1 ชั่วโมงเมื่อเทียบกับไวอากร้า และออกฤทธิ์นาน 4-6 ชั่วโมง
5. Herbal Viagra หรือยาไวอากร้าสมุนไพร เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่กังวลถึงผลข้างเคียงในการใช้ไวอากร้าชนิดอื่น ๆ เพราะส่วนผสมจะเป็นสมุนไพรที่อาจมีผลข้างเคียงน้อย มักจะมีสารสกัดจากโสมจีน, สารสกัด DHEA, L-arginine และ Niacin (vitamin B3) ที่จะไปช่วยเพิ่มฮอร์โมนเพศตามธรรมชาติที่ร่างกายสร้างขึ้น และเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศชาย รวมถึงช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ที่จะไปช่วยแก้ปัญหาการแข็งตัวของอวัยวะเพศได้ ซึ่งไวอากร้าสมุนไพรก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี แต่ก็มีข้อพึงระวังเช่นกัน เพราะอาจมีผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ เช่น มีแผลในกระเพาะอาหาร และอาจเกิดความเสียหายของตับได้หากกินติดต่อกันเป็นเวลานาน
ก่อนจะเลือกวิธีในการรักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศให้กับตัวเองด้วยการกินยา viagra pills ก็ควรศึกษาการทำงาน และการใช้งานของยาให้เข้าใจเสียก่อน เพื่อความปลอดภัยของตนเอง รวมถึงอาการ ED นั้น สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีธรรมชาติ เช่น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่าง ๆ อาจลองใช้วิธีนี้ก่อนในการทำร่างกายให้แข็งแรง และมีจิตใจที่สบายไม่เครียด ก็อาจจะช่วยให้ปัญหา ED ของคุณหมดไป โดยไม่ต้องใช้ยาไวอากร้าในการรักษาเลยก็ได้